
นางสาวปภาดา เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกิดจากเพียงแค่การทะเลาะวิวาทกันบนท้องถนน แต่กลับกลายมาเป็นความสูญเสียถึงชีวิต จุดเริ่มตนของเรื่องนี้เกิดจากในวันเกิดเหตุแรกวันที่ 27 กันยายน65 คู่กรณีต้องการจะยูเทริ์น แต่คู่กรณีไม่ได้ต่อแถวเข้าคิวเพื่อยูเทิร์น ตามที่รถคันอื่นทำ แฟนตนซึ่งตอนนั้นขับรถมาในทางตรงจึงไม่ให้ทาง สร้างความไม่พอใจให้กับคู่กรณี เมื่อคู่กรณียูเทิร์นกลับมาได้ก็ขับรถตามรถตนมา พร้อมกับเปิดไฟสูง จากนั้นคู่กรณีขับรถออกเลนซ้ายเพื่อแซงขึ้นข้างหน้า
ยอมรับว่าตอนนั้นสามีตนก็โมโห จึงมีการขับรถปาดกันไปกัน สามีตนจึงหยิบขวดเครื่องดื่มชูกำลังที่ดื่มแล้ว ซึ่งอยู่ในรถกว้างออกไปที่รถของคู่กรณีเพื่อจะให้คู่กรณีหยุดรถ จะได้พูดคุยเจรจากัน ซึ่งคู่กรณีก็หยุดรถและสามีตนก็ไปจอดขนาบข้าง คู่กรณีลดกระจกลงมาพร้อมกับการถ่ายคลิป ซึ่งจังหวะนั้นก็มีการตอบโต้เถียงด้วยถ้อยคำ เขวี่ยงข้าวของไปมาจนโดนหน้าสามีตน ทำให้สามีตนโมโหจึงเข้าไปต่อยคู่กรณี 1-2 ครั้งเท่านั้น
ส่วนคู่กรณีก็ต่อยคืนมา ไม่คิดว่าจะเป็นคดีเพราะคิดว่าเป็นการทะเลาะกันระหว่างลูกผู้ชาย จากนั้นหลานชายของตนได้ลงไปห้าม ไม่ได้ลงไปรุมทำร้ายตามที่คู่กรณีกล่าวอ้าง จากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป ซึ่งในระหว่างนั้นมีพยานน้องที่ขับเคอรี่เห็นว่าคู่กรณีมีปืน ส่วนเรื่องการใช้สนับมือนั้นตนยืนยันว่าไม่มี ถ้ามีจริงแผลที่ใบหน้าของคู่กรณีคงไม่ใช่แค่รอยฟกช้ำ