ศุกร์. ธ.ค. 1st, 2023
ผู้การอุดรฯ แถลงคืนรถปิกอัพให้สาวใหญ่ หลังโดนหนุ่ม 18 มงกุฎหลอกลักไปขาย ตามเจอในอู่ที่แปดริ้ว ตัวการใหญ่รับซื้อรถ กดดันให้นำมาส่งคืนก่อนหลุดออกไปพม่า ด้านผู้เสียหายเตือนผู้ใช้โซเชียลมิจฉาชีพแฝงมาในทุกรูปแบบ อย่างหนุ่มคนนี้หลอกให้รักก่อน ไม่สำเร็จก็หลอกให้สงสาร จนสุดท้ายกลายเป็นพาโจรเข้าบ้าน
เวลา 09.30 น. วันที่ 15 มกราคม 2566 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ ผกก.สภ.ทุ่งฝน พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งฝน ร่วมกันแถลงข่าวผลการติดตามรถปิกอัพ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้แชมป์ รุ่นพรีรันเนอร์ ทะเบียน ผค 9160 อุดรธานี ของ น.ส.พงศ์พันธ์ นารถสิทธิ์ อายุ 38 ปี ชาว อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ที่ถูก นายจิรายุ ศิลาวนิช หรือ เต้ย อายุ 24 ปี ชาว ต.ดอกไม้ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ที่ใช้อุบายหลอกผ่านสื่อโซเชียล ติ๊กต่อก ก่อนขโมยไปในช่วงกลางคืนวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา พร้อมกับมอบรถยนต์คันดังกล่าวคืนให้กับผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายได้กล่าวขอบคุณตำรวจที่สามารถติดตามรถกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลัง นายเต้ย หลอกผู้เสียหายสำเร็จ และขับรถของกลางนำไปขายในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ราคา 160,000 บาท หลังจากนั้นตำรวจสืบสวน สภ.ทุ่งฝน ได้ประสานงานไปยัง ศปจร.ภ.4 จนทราบว่ารถยนต์ที่ถูกลักไปนำไปขายให้ นายชาตรี เอี่ยมพิทักษ์พร หรือ เสี่ยเต๋า แปดริ้ว อายุ 41 ปี เจ้าของร้าน ทีแอนด์เอ เซอร์วิส บอดี้พาร์ท จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตรงข้ามโรงงานจัดจำหน่าย ถุงห่อผลไม้กันแมลง ถุงตาข่ายกันแมลง จึงประสานงานไปยัง พ.ต.ท.วันชัย ประถม รอง ผกก.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เข้าตรวจค้นที่ร้าน พบป้ายทะเบียน และเอกสารรถยนต์ที่เคยรับซื้อจำนวนมาก ซึ่งเป็นทะเบียนและเอกสารการครอบครองรถที่ติดไฟแนนซ์ โดยนายชาตรีให้การรับสารภาพว่ารับซื้อรถปิกอัพจาก นายจิรายุ หรือ เต้ย จริง ก่อนติดต่อให้นายทุนนำไปขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมา)

อย่างไรก็ตาม ทราบว่ารถของกลางกำลังจะข้ามเขตแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ตำรวจจึงได้กดดันนายชาตรีอย่างหนัก จนขบวนการโจรกรรมรถยนต์ ยอมนำรถของกลางมาจอดทิ้งไว้ในปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.วังตะเคียน อ.เมืองฉะเชิงเทรา ตำรวจจึงเข้าทำการตรวจยึด และติดต่อผู้เสียหาย พร้อมส่งตำหนิรูปพรรณรถ และสิ่งของภายในรถ โดยเฉพาะพวงกุญแจรถที่ผู้เสียหายจำได้ ก่อนที่ตำรวจสืบสวน สภ.ทุ่งฝน เดินทางไปรับรถกลับมาคืนผู้เสียหาย และดำเนินคดีกับ นายชาตรี หรือ เสี่ยเต๋า ในข้อข้อหา “รับซื้อของโจร” ควบคุมตัวขยายผลดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วน นายจิรายุ หรือ เต้ย คนร้ายที่ก่อเหตุ ตำรวจ สภ.ทุ่งฝน ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.4/2566 ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ขณะนี้ยังหลบหนี

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยต่อว่า ส่วนประวัติอาชญากรรมของนายจิรายุ หรือ เต้ยนั้น เคยถูกตำรวจหลายพื้นที่จับกุมในข้อหา “ลักทรัพย์รถยนต์” โดยใช้กลอุบายต่างๆ รวมทั้งไปตามบริษัทรถเช่า เมื่อเช่ารถไปแล้วก็เชิดไปขาย โดยเริ่มก่อเหตุตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา เมื่อพ้นโทษออกมาก็มีพฤติกรรมเช่นเดิมไม่ยอมเข็ดหลาบ และเปลี่ยนชื่อจากเดิมคือ นายสถาพร ชะงายกลาง เป็น นายจิรายุ ศิลาวนิช ก่อนจะมาก่อเหตุครั้งนี้ จึงฝากประชาสัมพันธ์ หากใครพบเห็น นายจิรายุ ที่ยังมีพฤติกรรมใช้อุบายต่างๆ ก่อเหตุหลอกลวงเหยื่อผ่านทางสื่อโซเชียล ให้ช่วยโทร.แจ้ง 191 หรือแจ้งตำรวจในพื้นที่ทุกสถานี

ด้าน น.ส.พงศ์พันธ์ นารถสิทธิ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนรู้จักนายจิรายุ หรือ “เต้ย” ในติ๊กต่อก จุดเริ่มต้นเห็นเขาโพสต์ว่าเขาท้อแท้ในชีวิต เกิดมาตัวคนเดียว พ่อแม่ก็ตาย พี่สาวก็โดนฆ่า จะปรึกษาพี่น้องก็ช่วยเหลือไม่ได้ เลยไปคอมเมนต์ให้กำลังใจ ต่อมาเขาก็ทักมาบอกว่า ทำไมพี่ใจดีจัง ผมไม่มีที่ไป เขาก็บอกอีกว่า ขอเป็นแฟนคบกันดีไหม ตนก็เลยบอกว่า ไม่ได้หรอก ยังไม่อยากมีใครอีก เขาก็บอกว่า ถ้างั้นขอไปเยี่ยมบ้านได้ไหม ก็บอกไปว่า อย่ามาเลยปีใหม่มันยุ่ง จุดที่สงสารน้องเขาตรงนี้เขาส่งภาพเขาใช้เชือกคล้องคอเอาไว้และมีน้ำตาไหลด้วย แถมเขียนจดหมายลาตายด้วยมีข้อความว่า ผมขอโทษที่ผมเป็นคนไม่ดี ตนก็เลยสงสารและกลัวว่าทำให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย จึงตัดสินใจให้มาเยี่ยมบ้าน

ต่อมา เขาบอกว่าไม่มีเงินก็เลยโอนให้ 5,000 บาท ครั้งแรก เขาก็นั่งรถโดยสารมาพักในตัวเมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 2 ม.ค.66 ที่ผ่านมา พอเขามาถึงตอนนั้นตนไปเยี่ยมญาติที่ จ.กาฬสินธุ์ ก็รีบไปรับเขา แต่ตอนไปพาลูกสาวไปด้วย พอมาถึงบ้านช่วงเย็นก็พามานอนที่บ้านผ่านไป 1 คืน พอวันที่ 3 ม.ค. เขาบอกว่าอยากไปไหว้ปู่ศรีสุทโธคำชะโนด เพราะรู้สึกดวงไม่ดี ตนก็พาไป พอช่วงเย็นตนขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปธุระต่างหมู่บ้าน

“พอกลับมาบ้านไม่เห็นตัวเขาและรถยนต์ และเขาโทร.มาบอกว่า ผมขอยืมรถไปธุระไม่เกิน 30 นาที จะกลับมาโดยรถยนต์คันนี้ ตนซื้อด้วยเงินสด 550,000 บาท หลังจากไปทำงานที่เมืองนอกมา พอเขาเอารถไปแล้ว ต่อมาก็มีไลน์ของอีกคน คิดว่าเขาปลอมไลน์บอกว่า รถอยู่กับคนนี้ ผมขอโทษ นายเต้ยเป็นหนี้ 35,000 บาท หากอยากได้รถยนต์ให้โอนเงินมา จึงตัดสินใจโอนไป 35,000 บาท ไปที่บัญชีนายเต้ย เขาก็บอกว่าจะเอามารถจอดไว้ตรงนี้ตรงนั้นนะ ไม่นานก็ทักมาขอเงินเพิ่มอีกหลายครั้งรวมเป็นเงินที่โอนไปให้นายเต้ย 106,800 บาท จนเงินในบัญชีหมด จึงไปแจ้งความอายัดบัญชีของนายเต้ย และทราบว่าเงินแสนบาทกว่าบาท เขาเบิกออกไปเหลือเงินในบัญชีเพียง 30,000 บาท”