นายพิธา กล่าวว่า ที่ผ่านมา ส.ส.ชาติพันธุ์ และพรรคก้าวไกล ได้ร่วมกันผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ ที่จะปลดล็อกให้บริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างไฟฟ้าและน้ำประปา สามารถเข้าถึงพื้นที่ดั้งเดิมของชาวชาติพันธุ์ที่อยู่ในเขตอุทยานได้ รวมถึงคุ้มครองไม่ให้ชาวชาติพันธุ์ถูกเลือกปฏิบัติ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการสากลของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) และปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง (UNDRIP) ถึงแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะใช้อำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีปัดตกร่างกฎหมายฉบับนี้ไป แต่ถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะนำ พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ของพรรคก้าวไกลกลับสู่สภาอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ พรรคก้าวไกลยังให้การสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย ที่เสนอโดยภาคประชาชน 12,888 คน เพื่อหนุนเสริมให้ชาวชาติพันธุ์มีปากมีเสียง และมีส่วนร่วมกับระบบการเมืองเพิ่มมากขึ้น