ซึ่งเป็นกระท่อมนา สร้างอยู่ริมน้ำ มีขวดสุรา 40 ดีกรีที่ดื่มหมดแล้ว 1 ขวด อีก 1 ขวดยังหลงเหลือเพียงเล็กน้อย และมีคราบเลือดติดอยู่ที่พื้นไม้ และชุดเครื่องเสียงตั้งอยู่พร้อมลำโพง และไมโครโฟน ที่เปื้อนคราบเลือด
นางดาหวัน ปานาราช อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองหญ้าปล้อง เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงประมาณตี 1 หลานชายที่เป็นตำรวจสายตรวจที่ สภ.พลโทรศัพท์มาแจ้งว่า นางเขียว หรือนางทัศนีย์ อายุ 51 ปี โทรมาบอกว่า ฆ่าผัวแล้วที่ทุ่งนา จึงอยากให้ไปตรวจสอบ จึงรีบไปหาญาติพี่น้องนาเขียวที่บ้านหนองแวงโสกพระ ม. 1 และแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ทราบ พร้อมแจ้งตำรวจ สภ.พลมาตรวจที่เกิดเหตุ
จากนั้นญาติพี่น้องจึงลงพื้นที่พร้อมตำรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็พบศพนายไพทูล อายุ 53 ปี อดีตพนักงานร้านขาย เทปใส / เทปกาว สภาพศพนอน ใส่กางเกงในเพียงตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่า นอนตะแคงซ้าย และมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมที่ใต้ใบหูขวา เป็นแผลฉกรรจ์ เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงประสานสมาคมVRกู้ภัยมิตรภาพเมืองพลมารับศพผู้ตาย ส่งไปยังนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์เพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพตามขั้นตอน
ทางด้าน ร.ต.อ.ประภาส พรพิพัฒน์ รองสว.(สอบสวน) สภ.พล กล่าวว่า หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ และชันสูตรศพผู้ตาย และทราบว่า คนที่ลงมือฆ่านายไพทูล คือภรรยาผู้ตายชื่อนางทัศนีย์ หลังก่อเหตุภรรยา เดินเข้าไปอยู่ในบ้าน ที่บ้านหนองแวงโสกพระ จึงได้ติดตามตัวนางทัศนีย์ได้ที่บ้านพัก พร้อมอาวุธมีดอีโต้ 1 เล่ม ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.พล
จากการสอบสวน นางทัศนีย์ให้การว่า อยู่กินกับสามีมานานหลายปี ช่วยกันทำมาหากิน ทำไร ทำนา เลี้ยงวัว และพากันออกไปอยู่ที่ที่นา จุดเกิดเหตุ แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สามีติดยาเสพติดและติดสุรา จะบังคับให้ไปซื้อยาบ้ามาให้เสพ บังคับซื้อสุรามาให้ดื่มทุกวัน เมื่อเมาก็จะทำร้ายร่างกาย แต่ก็ทนมาตลอด