พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางต้นสังกัดของตำรวจที่ถูกออกหมายจับสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ 3 นาย ส่วนอีก 1 นาย ยศ พ.ต.ต. ตำแหน่งสารวัตรกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 หลบหนีไปได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าตัวของผู้ต้องหารายดังกล่าวหลบหนีอยู่ที่ใด แต่เชื่อว่าน่าจะเข้ามามอบตัวในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและชุดสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหาทั้ง 4 นาย ย้อนกลับไปว่าเคยมีการร้องเรียนหรือพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าวด้วยหรือไม่ เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งหมด น่าจะไม่ได้ก่อเหตุลักษณะนี้เป็นครั้งแรก และจะมีการขยายผลไปถึงคนไทยอีก 1 คน ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ และจะเตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุในล็อตต่อไป
ส่วนการดำเนินการทางวินัย ขณะนี้ทราบว่าผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ดำเนินการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องดังกล่าว และให้ตำรวจทั้ง 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน โดยยืนยันว่าคดีดังกล่าวจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถึงที่สุด แม้ว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตาม
นอกจากนี้ ยังให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหายและผู้ต้องหา ว่าส่งต่อเงินไปยังบุคคลใด ทั้งเงินสกุลปกติและเงินสกุลดิจิทัล เชื่อว่าจะหาพยานหลักฐานมาใช้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกคนได้ ส่วนตัวผู้เสียหายชาวจีนที่มีรายงานว่าสวมบัตรประชาชนคนไทยนั้น ก็จะต้องตรวจสอบว่ามีความผิดตามกฎหมายอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ถูกควบคุมตัวมาสอบสวน ทุกคนปฏิเสธให้การในชั้นสอบสวน และร้องขอทนายตามสิทธิ แต่ชุดสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน ทั้งคำให้การของผู้เสียหายทุกคน และเส้นทางการเงินต่างๆ