
นายอัฐพล บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและภรรยาได้กลับจากที่ทำงาน โดยตนเองทำงานร้านอัดฉีด ส่วนภรรยาเปิดร้านขายถุงสูญญากาศ ถุงซีลสูญญากาศ ที่บ้านสันติสุข หลังจากช่วยกันเก็บร้านเสร็จจะกลับบ้านที่บ้านหนองสองห้อง โดยใช้เส้นทางนี้ประจำแต่เป็นเส้นทางเปลี่ยวระหว่างหมู่บ้าน เป็นถนนแดง โดยภรรยาขับรถยนต์นำหน้า ตนเองขับรถจยย.ตามหลังห่างกันไม่ถึง 100 เมตร พอมาถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า มีคนร้ายเป็นชายสองคนรูปร่างผอมสูง กระโดดออกจากจากพงหญ้าข้างทาง ใช้เท้ากระโดดถีบรถจยย.ตนเองจนล้ม ได้ยินเสียงคนร้ายบอกว่า มันล้มแล้ว เข้าไปชิงเงินมันได้เลย พอตนได้สติก็โมโหบอกว่ามาถีบรถกู!!!ทำไม แล้วจะวิ่งไล่คนร้าย คนร้ายก็วิ่งไปในซอกป่า ตนเองก็วิ่งตาม จากนั้นเห็นคนร้ายถือไม้เบสบอลและมีดวิ่งเข้ามาตีตนเองจนน่วม และใช้มีดฟันเข้ากลางหลัง แต่จังหวะนั้นเองภรรยาขับรถปิคอัพมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายได้หลบหนีไป ส่วนทรัพย์สินไม่ได้อะไรไป สาเหตุที่ตนเองวิ่งไล่คนร้ายเพราะมันเคยดักปล้นตนเองมาแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.ย.65 ครั้งนั้นก็ไม่ได้เอาไป มาคราวนี้ถือว่าตนเองถูกปล้น 2 ครั้งแล้ว ส่วนที่คนร้ายใช้มีดฟันไม่เข้าเชื่อบารมีของหลวงปู่เจื่อ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม และกระดูกฟันของคุณตาที่เสียชีวิตไปแล้วที่ห้อยไว้ในคอตลอด ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยรอดอันตรายมาได้ถึง 2 ครั้ง
นางกรรณิกา จำลอง อายุ 28 ปีภรรยาของนายอัฐพล เปิดเผยว่า ตนและสามีถูกปล้นมาแล้ว 2 ครั้ง ตรงจุดนี้เลย ซึ่งเป็นถนนแดงเส้นทางระหว่างหมู่บ้านบ้านสันติสุข-บ้านหนองสองห้อง มันเป็นทางเปลี่ยว แต่ไม่คิดว่าจะถูกดักปล้น เป็นชายวัยรุ่นผอมสูงเหมือนคนติดยา ถ้าให้สงสัยอาจจะเป็นวัยรุ่นที่มีร้านเหล้าข้างๆ กับร้านส้มตำที่ตนเองเปิด ช่วงเย็นจะมีวัยรุ่นมารวมกลุ่มกินเหล้า โดยก่อนจะเดินทางหลังจากปิดร้านส้มตำแล้ว สามีได้เบิกเงินจากที่ทำงานและยื่นให้ตนเอง 3,000 บาทบอกให้ตนเองเอาไปซื้อของจัดงานวันเกิดให้ลูกสาวที่เกิดวันนี้ 15 ก.ย. คาดว่าวัยรุ่นจะเห็นสามียื่นเงินให้ เลยติดตามมาดักปล้นเงิน อยากให้ตร.เร่งติดตามคนร้ายให้ได้ ไม่งั้นจะถูกดักปล้นอีกแน่
ต่อมาเวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่ตร.ชุดสืบสวน สภ.บ้านดุง ได้พาผู้เสียหายไปตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง และจะได้เร่งติดตามคนร้ายที่ดักปล้นชาวบ้านมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ไม่งั้นมีเหยื่อรายต่อไปแน่