
(5 พ.ย.65) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนถูกอุ้มไปทำร้าย อย่างทรมาน ด้วนการชกต่อย แล้วเอาสายไฟฟ้ามาเฆี่ยนตี จนได้รับบาดเจ็บ เกรงว่าคดีไม่คืบหน้า เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นคนกว้างขวางในพื้นที่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านคดี
จากการตรวจสอบ พบว่าผู้ถูกทำร้ายคือ นายบุญส่ง หรือ ต้อ อายุ 31 ปี อยู่เลขที่ 295 หมู่ 1 ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ยังมีร่องรอยบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง โดยเฉพาะแผ่นหลังมีรอยการถูกสายไฟฟ้าฟาดใส่เป็นแผลทั่วบริเวณ นายต้อ เล่าว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะตนเองนั่งเล่นอยู่บ้าน ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ มาด้วยกัน 3 คน เข้ามาล็อกตัวแล้วอุ้มขึ้นรถกระบะ ไปที่ไร่กัญชา ของนายนันทิน พันธุ์ยา หรือศักดิ์ อายุ 46 ปี เจ้าของโรงงานผลิต ถาดรองขนม / ถาดรองขนมไหว้พระจันทร์ นายจ้างของตัวเอง เมื่อควบคุมตัวไปถึงได้เปิดฉากรุมทำร้ายตนโดยไม่ทราบสาเหตุ จนร่างกายตนบอบช้ำไปทั้งร่าง
เมื่ออนถามว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้ นายศักดิ์ หัวหน้าทีม บอกว่า ตนเอาน้ำกรดไปหยอดใส่ต้นกัญชา แต่ตนไม่ได้ทำ จึงถูกบังคับให้ยอมรับว่าเป็นคนทำให้ได้ จึงจำเป็นต้องแบ่งรับแบ่งสู้ ว่าผู้ใหญ่บ้านเป็นคนจ้างมาใส่น้ำกรดในต้นกัญชา เพื่อให้ตนรอดจากการทำร้ายเกรงว่าจะได้รับอันตรายมากกว่านี้ จากนั้นได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ละหานทราย แต่ทำได้แค่ข้อหาทำร้ายร่างกาย ตอนนี้ยอมรับว่าผวาเกรงว่าจะถูกทำร้ายอีก
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ไร่กัญชาของนายศักดิ์ ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกัน โดยนายศักดิ์ เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังว่า ตนศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกกัญชาออแกนิค มานาน หลังจากรัฐบาลปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด ตนได้ยื่นขอใบอนุญาตปลูก และหาตลาดไว้รอเพื่อจะปลูกส่งลูกค้า โดยได้ลงทุนปลูก 2,000 ต้น บนเนื้อที่ 2 ไร่ ในจำนวนนี้ตามที่ตนคาดการณ์ไว้ จะขายกัญชาได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ต่อมาได้มีนายต้อ มาขอทำงานด้วย ตนก็รับไว้เพราะเห็นเป็นคนบ้านเดียวกัน
มาผิดสังเกตในช่วงระยะหลัง เพราะเข้าออกฟาร์มไม่ตรงเวลา อยากหยุดก็หยุด โดยเฉพาะไม่ถามหาเงินเดือน แต่มาสวนทางกับต้นกัญชาที่กำลังออกช่อ บางส่วนเฉาตาย บางส่วนไม่เจริญเติมโตตามเป้า ตนในฐานะที่ศึกษาเรียนรู้เรื่องนี้มานาน เอาดินและกัญชาไปตรวจ พบว่ามีกรดอยู่ในต้นกัญชา ในน้ำ ไม่เว้นแท็งก์น้ำ เมื่อตรวจสอบเชิงลึก พบว่าเป็นน้ำกรดสำหรับหยอดน้ำยางพารา แต่ไม่มีใครที่จะเข้ามาทำแบบนี้ได้ นอกจากนายต้อเพียงคนเดียว เพราะคนที่เข้าไร่ตนได้อีกหนึ่งคนเป็นน้องชาย ยอมรับว่าไปจับมาแล้วทำร้ายจริง เมื่อเค้นแล้วนายต้อก็ยอมรับว่าทำจริงตามคลิปภาพที่ถ่ายไว้ ถึงเวลานี้สารภาพว่าทำร้ายจริง ยอมรับผิดให้ดำเนินการทางกฎหมาย ที่ทำไปเพราะแค้นใจ จากที่ตั้งเป้าเอาไว้จะขายกัญชาได้ประมาณ 30 ล้าน แต่ตอนนี้มีมูลค่าความเสียหายแล้วไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ถึงเวลานี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่านายต้อ ทำไปเพื่ออะไร