อาทิตย์. ก.ย. 15th, 2024
เชียงใหม่แซงกรุงเทพ ขึ้นอันดับ 12 ของโลกเมืองมลพิษทางอากาศ เช้านี้ดอยสุเทพเริ่มหายไปจากวิวตัวเมือง หลังถูกหมอกควันหนาแน่นสะสมตัวปกคลุมต่อเนื่อง ส่วนอำเภอตอนล่างทั้งฮอด-ดอยเต่าอ่วมหนักค่า PM2.5 พุ่งสูง 124 ไมโครกรัม จนต้องเร่งออกฉีดพ่นน้ำสลายหมอกควันเพื่อช่วยบรรเทา
เช้านี้เมื่อเวลา 8.00 น.จาก เวปไซด์ iqair ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลกพบว่า จังหวัดเชียงใหม่พลิกกลับมาแซงกรุงเทพขึ้นมาอยู่อันดับที่ 12 ของโลก เมืองที่มีวิกฤติคุณภาพอากาศ ค่า PM2.5 วัดได้ 79.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศขึ้นมาอยู่ที่ 173 US AQI ส่วน กรุงเทพมหานคร ลงมาอยู่อันดับที่ 24 ค่า PM2.5 วัดได้ 38 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศขึ้นมาอยู่ที่ 107 US AQI ส่วนอันดับ 1 เป็นของเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน PM2.5 อยู่ที่ 133 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ 191 US AQI
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์หมอกควันที่สะสมตัวหนาวแน่นขึ้นต่อเนื่องในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ส่งผลให้เช้านี้พบว่าดอยสุเทพที่อยู่ทางด้านตะวันตกของตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นดัชนีทางกายภาพที่วัดคุณภาพอากาศของเมือง พบว่าถูกหมอกควันสีขาวบดบังจนเป็นได้เป็นเงาลางๆ เท่านั้น ซึ่งสะท้อนว่าคุณภาพอากาศของเชียงใหม่เข้าสู่ช่วงวิกฤติแล้วในตอนนี้
โดยเชียงใหม่สูงสุด ที่อำเภอฮอด ซึ่งเป็นอำเภอทางตอนล่าง ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่าค่า PM2.5 สูงสุดของภาคเหนือ พุ่งสูงถึง 97 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 207 AQI ส่วนในตัวเมืองเชียงใหม่ ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง ตรงข้ามโรงงาน ฟิล์มยืด / ฟิล์มยืดพันพาเลท วัดค่า PM 2.5 ได้ 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 149 AQI ที่ ศูนย์ราชการตำบลช้างเผือกวัดได้ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 116 AQI ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว 59 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 121 AQI และที่ ดอยสุเทพ วัดได้ 55 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 111 AQI ถือว่าเกินค่ามาตรฐานในทุกพื้นที่แล้ว