ข่าวด่วนล่าสุด

เรื่อง: “ธุรกิจกล่องกระดาษโตสวนกระแส รับดีมานด์กล่องไปรษณีย์-กล่องพัสดุ-กล่องลูกฟูก จากอีคอมเมิร์ซที่เติบโตต่อเนื่อง”
ในช่วง 3–5 ปีที่ผ่านมา กล่องกระดาษได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมวดของ กล่องไปรษณีย์, กล่องพัสดุ และ กล่องลูกฟูก ซึ่งกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบขนส่งสินค้าและการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ หรือที่เราคุ้นกันในชื่อว่า “อีคอมเมิร์ซ” เนื่องจากรูปแบบการซื้อขายเปลี่ยนไปจากการเดินซื้อที่หน้าร้าน ไปเป็นการสั่งซื้อผ่านมือถือและเว็บไซต์ ระบบแพ็คและขนส่งสินค้าจึงต้องมีประสิทธิภาพสูง และ “กล่องกระดาษ” คือเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการทำให้กระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่น

หนึ่งในกล่องที่ถูกใช้มากที่สุดคือ กล่องไปรษณีย์ ซึ่งมีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กแบบเบอร์ 00 ไปจนถึงกล่องขนาดใหญ่พิเศษที่ใช้ส่งสินค้าหนัก กล่องพัสดุเหล่านี้ต้องออกแบบให้แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี และที่สำคัญคือต้องสามารถพิมพ์โลโก้ หรือข้อมูลแบรนด์ผู้ขายเพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจได้ด้วย

ส่วนในฝั่งของ กล่องพัสดุ แบบทั่วไปซึ่งเน้นการใช้งานสำหรับส่งของเอนกประสงค์ กลุ่มธุรกิจ SME หรือร้านค้าออนไลน์มักนิยมสั่งซื้อแบบแพ็กใหญ่หรือแบบราคาส่งจากโรงงานโดยตรง เพื่อประหยัดต้นทุนและได้กล่องพัสดุในราคาถูกกว่า ซึ่งนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจผลิตกล่องในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

กลุ่มที่เติบโตอีกกลุ่มหนึ่งคือผู้ผลิต กล่องลูกฟูก ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบบ 3 ชั้น และ 5 ชั้น สำหรับงานขนส่งหนักหรือสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เครื่องครัว อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงงานส่งออก โดย กล่องลูกฟูก เป็นที่นิยมเพราะมีความแข็งแรง ทนต่อแรงกด และป้องกันการกระแทกได้ดี อีกทั้งยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แม้ดูเหมือนกล่องจะเป็นเพียงบรรจุภัณฑ์ธรรมดา แต่แท้จริงแล้ว กล่องกระดาษ นั้นมีอิทธิพลทางการตลาดไม่น้อย เพราะนอกจากการห่อหุ้มสินค้าแล้ว ยังเป็นเครื่องมือในการสื่อสารแบรนด์ เช่น การเลือกใช้สีสัน พิมพ์โลโก้ พิมพ์ลวดลาย และแม้แต่ข้อความถึงลูกค้าก็สามารถทำผ่านกล่องได้ ช่วยสร้างความประทับใจและกระตุ้นการซื้อซ้ำได้ในอนาคต

จากการสำรวจของสมาคมบรรจุภัณฑ์ไทย พบว่าในปี 2567 ยอดผลิตและจำหน่าย กล่องพัสดุ และ กล่องไปรษณีย์ ในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกว่า 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเกือบ 20% โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีธุรกิจออนไลน์เกิดใหม่ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และหาดใหญ่ ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ขนาดย่อมที่ขับเคลื่อนด้วยผู้ค้าออนไลน์รายย่อย

นอกจากนี้ เทรนด์ใหม่อย่าง “การสั่งกล่องออนไลน์” ก็เข้ามาแทนที่การสั่งกล่องผ่านร้านค้าทั่วไป โรงงานผู้ผลิตจึงพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ลูกค้าสามารถเลือกขนาดกล่อง, ประเภทกล่อง (เช่น กล่องลูกฟูกหรือกล่องพัสดุ), และจำนวนการสั่งซื้อได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงรับบริการจัดส่งถึงบ้านได้ในเวลาไม่เกิน 2 วัน ถือเป็นการลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก และช่วยให้ร้านค้าขนาดเล็กสามารถเข้าถึงกล่องคุณภาพดีได้ง่ายขึ้น

ไม่เพียงแต่ในประเทศ ตลาดส่งออกของกล่องลูกฟูกไทยก็กำลังเป็นที่สนใจ โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว เมียนมา และกัมพูชา ซึ่งระบบไปรษณีย์กำลังพัฒนา ทำให้ความต้องการ กล่องไปรษณีย์ และ กล่องพัสดุ เติบโตตาม การที่ไทยมีฐานการผลิตขนาดใหญ่และต้นทุนแข่งขันได้ จึงทำให้การส่งออกกล่องมีแนวโน้มขยายตัวในอีก 3–5 ปีข้างหน้า

กล่าวได้ว่า กล่องกระดาษในวันนี้ ไม่ใช่แค่สิ่งที่ใช้ห่อสินค้าอีกต่อไป แต่เป็น “องค์ประกอบสำคัญ” ที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ เป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์แบรนด์ และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัลได้อย่างทรงพลัง